“สำคัญตรงที่คุณจะไม่ตัดสินว่าฉันเป็นใคร” มาก้าวข้ามขีดจำกัดไปพร้อมกับเธอ, คิมโกอึนจาก Exhuma
ล้วงลึกเบื้องหลังกว่าจะมาเป็นหมอผีฮวาริม ในบทความแปลบทสัมภาษณ์วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2024 หลังภาพยนตร์ Exhuma เข้าฉาย
“ฉันอยากวิ่งหนีไปเพราะกลัวการแสดง”
ทุกครั้งที่รับงานแนวใหม่ และท้าทายตัวละครใหม่
“ถ้าสร้างขีดจำกัดภายในตัวเอง ตัวเองก็จะมีขีดจำกัด”
ไม่ว่าจะหนังสยองขวัญ นัวร์ ศิลปะการต่อสู้ มิวสิคัล โรแมนติกคอมเมดี้ และแฟนตาซี เธอเดบิวต์จากภาพยนตร์ แต่ก็ปรากฏตัวในละครพอ ๆ กับที่ได้เห็นในภาพยนตร์ นักแสดงคิมโกอึนในวัย 33 ปี ไม่รังเกียจตัวละครใด ๆ หรืองานแนวไหน จะเป็นหนังความยาว 2 ชั่วโมงหรือละคร 16 ตอน เธอบอกว่า “ฉันแค่อยากจะแสดงให้หลากหลาย”
ในภาพยนตร์เรื่อง ‘Exhuma’ ที่เข้าฉายเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คิมโกอึนรับบทเป็นหมอผี เป็นครั้งแรกสำหรับแนวลึกลับและสำหรับบทบาทหมอผี ภาพยนตร์ของเธอมีความหลากหลายมากขึ้นไปอีกขั้น บางทีผู้ชมอาจได้เห็นคิมโกอึนอีกครั้งในแบบที่ไม่เคยเห็นในผลงานก่อนหน้านี้ ฉันพบกับคิมโกอึนในวันที่ 26 ซึ่งเป็นวันที่ห้าของการเปิดตัว “Exhuma” หลังจากมีผู้ชมเกิน 2 ล้านคนในสี่วันหลังจากเปิดตัว เธอพูดถึงความกังวลเกี่ยวกับการทำหน้าที่เป็นหมอผี กระบวนการเตรียมตัวและยิ้มด้วยจมูกที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมพูดอย่างจริงจังว่า “สำคัญที่คุณจะไม่ตัดสินว่าฉันเป็นใคร”
“การดึงภาพลักษณ์ใหม่ ๆ ออกมา มันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างพูดเลยนะคะ ความจริงคือ ถ้าผลงานชิ้นไหนออกมาดี ก็จะมีข้อเสนอบทที่คล้าย ๆ กันเข้ามา มีตัวละครแบบเดียวกันเข้ามาเยอะมากค่ะ การได้พบกับผลงานที่สามารถแสดงในสิ่งที่ฉันยังไม่เคยได้แสดงให้ดูมันไม่ง่ายเลย แต่ถ้าหากฉันสร้างข้อจำกัดในตัวฉันไปแล้ว ก็จะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแสดงภายในขีดจำกัดนี้ค่ะ”
ใน ‘Exhuma’ คิมโกอึนดูเหมือนจะพยายามฝ่าขีดจำกัดดังที่เธอกล่าวไว้ หลังจากที่ฮวาริมถูกขอให้ขุดและเผาหลุมศพที่ดูเหมือนจะมีบางอย่างซ่อนอยู่ ฮวาริมไปปรึกษาซินแสฮวงจุ้ย ซังด็อก (ชเวมินชิก) สัปเหร่อ ยองกึน (ยูแฮจิน) พร้อมลูกศิษย์ของเธอ บงกิล (อีโดฮยอน) และขอให้พวกเขาทำงานร่วมกัน ในเวลานี้บทบาทของฮวาริมคือการสื่อกับดวงวิญญาณด้วยการทำพิธีบูชายัญเพื่อให้การขุดหลุมศพดำเนินไปอย่างราบรื่น ในฉากแดซัลกุท ซึ่งสามารถเรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ในครึ่งแรกของ ‘Exhuma’ คิมโกอึนปลดปล่อยพลังงานแห่งความหลงใหลราวกับว่าเธอสัมผัสถึงได้จริง ๆ เมื่อได้พิจารณาบริบททั้งหมดนี้ จะรู้ได้เลยว่าคิมโกอึนนั้นยังไม่มีขีดจำกัดในการแสดง
“ก่อนจะเริ่มพิธีบูชายัญอย่างเป็นทางการ ฉากท่องพระคัมภีร์เป็นฉากที่ยากที่สุด ถ้าแสดงออกมาแบบไม่ชำนาญ ทุกอย่างก็จบค่ะ เครียดมาก ๆ พลอยอยากให้เลื่อนการถ่ายทำ ไปเรื่อย ๆ เลยค่ะ อยากจะหนีไปจริง ๆ นะคะ”
การท่องจำเนื้อหาของพระคัมภีร์ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับคิมโกอึนคือการท่องบทสวดด้วยโน้ต ซึ่งในความเป็นจริงนั้นหมอผีท่องบทสวดด้วยพลังที่แตกต่างกันในแต่ละครั้งโดยที่ไม่ได้บันทึกไว้ ถ้าจะให้พูดก็คือทั้งหมดนั้นคือ ad-lib ว่ากันว่าคิมโกอึนไม่มีความมั่นใจในการแสดงที่ต้องท่องบทพระคัมภีร์ด้นสดเหมือนอาจารย์หมอผีตัวจริง ดังนั้นเธอจึงได้รับพระคัมภีร์สามฉบับจากหมอผีที่มาเป็นตัวอย่างของฮวาริมและจดจำพระคัมภีร์ในแบบง่ายที่สุดให้เหมือนกับเพลง คิมโกอึนพูดถึงการแสดงในฉากนี้โดยบอกว่า “ฉันพยายามอย่างมากเลยค่ะ”
ความพยายามของเธอยังไม่จบเพียงเท่านี้ เธอพยายามที่จะพบหมอผีหลาย ๆ ท่าน ขอเข้าไปดูในสถานที่จริง 4–5 ครั้งเพื่อชมพิธีและการแสดงที่ต้องแสดงในภาพยนตร์ เช่น พิธีบูชายัญ เธอได้ไปเยี่ยมอาจารย์หมอผีที่กลายเป็นแรงบันดาลใจและฝึกฝนซ้ำ ๆ อยู่หลายครั้ง เนื่องจากเธอได้รับการดูแลจากอาจารย์หมอผีที่มีชื่อเสียงและยุ่งอยู่แล้ว จึงไม่สามารถอยู่ซ้อมด้วยกันได้ในสถานที่จริง เธอจึงขอให้อาจารย์ตรวจสอบรายละเอียดของการแสดงผ่านการติดต่อทางโทรศัพท์และการพูดคุยทางวิดีโอคอล
“ฉันคิดว่ารัศมีอันแข็งแกร่งของหมอผีนั้นเริ่มต้นจากการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย การแสดงให้ดีเป็นสิ่งสำคัญแต่การรวบรวมท่าทางเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน อย่างการเขย่าร่างกายเล็กน้อยหรือบริหารคอเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับทำพิธี ฉันทำความเข้าใจทุกท่าทางและพยายามไม่พลาดแม้แต่การเคลื่อนไหวที่เล็กน้อยที่สุดค่ะ”
นักแสดงรุ่นพี่ทั้งสองคน ชเวมินชิก และยูแฮจิน ชื่นชมการแสดงของคิมโกอึนอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชเวมินชิก กล่าวว่า “คิมโกอึนคือซนฮึงมินและเมสซี่ในภาพยนตร์ของเรา” คิมโกอึนบอกว่าเธออายกับคำชมจากรุ่นพี่ แต่พูดว่า “ฉันรู้สึกถึงความมั่นใจ” “รุ่นพี่ชมฉันตอนทำงานเยอะมากเลยค่ะ” พวกเขาคอยพูดกับฉันว่า ทุกเทคดี อันนี้ดีนะ เพราะพวกรุ่นพี่ฉันเลยแสดงได้อย่างกล้าหาญมากขึ้น รู้สึกขอบคุณและดีใจมาก ๆ ค่ะ”
แปลจาก https://naver.me/GrNC5rMh
**ไม่อนุญาตให้นำบทความแปลไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต**