เส้นทางอาชีพนักแสดงของนักเรียนสายภาพยนตร์ คิมโกอึน..

Kim Go Eun Thailand Fan Club
2 min readMay 21, 2019

--

จุดเริ่มต้นอาชีพนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง Eun Gyo จนถึงบทบาทแนวแฟนตาซีจากซีรีส์เรื่อง Goblin (แปลจากบทความ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2017)

เริ่มต้นจากเป็นนักเรียนสายภาพยนตร์ จนมาเป็นนักแสดงหญิงคิมโกอึน “ผู้ที่น่าจับตามอง”

จุดเริ่มต้นของคิมโกอึนนั้นค่อนข้างแตกต่างจากนักแสดงหญิงคนอื่นๆ เธอได้เดบิวท์ในปี 2012 กับผลงานภาพยนตร์เรื่อง “Eun Gyo” ในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ เธอมีคุณสมบัติคล้ายกับนักแสดงมืออาชีพแบบดั้งเดิม แต่ในขณะเดียวกันก็มีความน่าสนใจของนักแสดงหน้าใหม่ คิมโกอึนไม่ได้มีรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกับนักแสดงหญิงหลายคนที่ดูคล้ายราวกับตุ๊กตา เช่น มีตาสองชั้นกลมโต และจมูกโด่ง แต่โกอึนกลับโดดเด่นในรูปลักษณ์ที่ตรงกันข้าม เธอมีดวงตาเล็ก และริมฝีปากอมชมพู ที่โค้งเป็นรูปยามที่เธอหัวเราะ แสดงให้เห็นถึงความเป็นธรรมชาติ และเสน่ห์ที่น่าดึงดูด ตั้งแต่เดบิวท์มาเธอก็มีลักษณะ “เฉพาะตัวของตัวคิมโกอึน” และไม่ถือเป็นการกล่าวเกินจริงที่จะพูดว่า เธอได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงนิยาม และมุมมองของความงาม

ถือเป็นความโชคดีอย่างหนึ่ง ที่ผู้คนเริ่มเบื่อกับความงามที่มีการปรุงแต่งที่เยอะเกินไป ทำให้การที่ได้เห็นใบหน้าที่ดูเกลี้ยงเกลาสดใสของคิมโกอึนนั้น เหมือนเป็นการได้พักผ่อนสายตาของคนเหล่านั้น

“ความธรรมดา ได้กลายมาเป็นความพิเศษ”

ความคาดหวังของวงการภาพยนตร์ต่อตัวคิมโกอึนกับวัยของเธอในตอนนั้นส่งผลดี เป็นการตอบโจทย์ความต้องการของวงการบันเทิงที่จะเฟ้นหานักแสดง “หน้าใหม่” อย่างไรก็ตามความโชคดีในฐานะนักแสดงหน้าใหม่นั้นมักจะอยู่ได้ไม่นาน

โกอึนได้มีผลงานภาพยนตร์เรื่องถัดๆมา ได้แก่ Monster (2014), Chinatown (2015), Memories of the Sword (2015), The Advocate (2015) การที่เป็นจุดสนใจของผู้คนนั้น ไม่ได้มีแต่เพียงด้านสวยงามเท่านั้น แต่กลับสามารถสร้างบาดแผลได้เช่นเดียวกัน และย่อมมีผลกระทบต่างๆ ที่ตามมา ดังเช่นการโต้เถียงเกี่ยวกับความสามารถในการแสดงนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จากการที่ยังด้อยประสบการณ์ อาจทำให้ถูกมองว่าเป็นอุปสรรค ต้องขอบคุณกระแสของผลลัพธ์จากภาพยนตร์เรื่อง Eun Gyo ทำให้คิมโกอึนไม่ต้องเผชิญกับปัญหากับการไม่เป็นที่รู้จัก ตั้งแต่เธอเดบิวท์โกอึนก็ได้ก้าวมาเป็นนักแสดงนำ ความโด่งดังในช่วงระยะเวลาอันรวดเร็วถือเป็นดาบสองคม

คิมโกอึนเผชิญกับความท้าทาย และได้เลือกทางเลือกที่เหนือการคาดหมาย ด้วยการเลือกรับงานจอแก้ว แน่นอนว่าเธอไม่ได้เข้าสู่วงการละครได้อย่างง่ายดายนัก เพราะความนิยมที่ได้รับมาจากการเล่นภาพยนตร์เรื่อง “Eun Gyo” นั้นซาลงแล้ว

คิมโกอึนได้เลือกรับบทตัวละครนำหญิงในซีรีส์เรื่อง “Cheese in the Trap” (ผู้กำกับอียุนจอง) ทางช่อง tvN ซึ่งสร้างมาจากเว็บตูนที่โด่งดัง และมีแฟนคลับติดตามอยู่เป็นจำนวนมาก ผลงานเว็บตูนเรื่องนี้มีออกมาอย่างต่อเนื่องผ่าน Naver เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2010 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก และความขัดแย้งระหว่างเด็กสาวมหาวิทยาลัย และแฟนหนุ่มรุ่นพี่ของเธอ

Photo tvN

นักแสดงพัคแฮจินได้คอนเฟิร์มรับบท รุ่นพี่ยูจอง ตัวละครนำชายที่ดูสมบูรณ์แบบ แต่มีความลึกลับ ซึ่งในการแคสติ้งนักแสดง พัคแฮจินสามารถแสดงบทยูจองออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสนใจจำนวนมากต่อการคัดเลือกนักแสดงที่จะได้รับบทตัวละครนำหญิง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหานักแสดงในช่วงอายุ 20 ปี ที่สามารถสวมบทตัวละครที่มีบุคลิคที่มีความขัดแย้งในตัว ดูนิ่งสงบ แต่ก็มีเล่ห์เหลี่ยมด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังต้องมีรูปลักษณ์ที่ดูเหมือนหญิงสาวธรรมดาทั่วไป
ในตอนแรกนั้น มีนักแสดงหญิงท่านอื่นได้รับการพูดถึง แต่ก็ได้รับกระแสความคิดเห็นที่แตกต่างจากผู้คน ทำให้สุดท้ายชื่อของคิมโกอึนได้มีการพูดถึงขึ้นมาแทน

“โชคชะตาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ Cheese in the Trap”

ท้ายที่สุดแล้ว การทำงานอย่างหนักของคิมโกอึนก็ประสบความสำเร็จ การสวมบทเป็น ฮงซอล นั้นเป็นที่ยอมรับ และลบความกังวลของผู้ชมก่อนหน้านี้ได้ โกอึนสามารถดึงดูดความสนใจของคนดู ด้วยภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเธอ ต้องขอบคุณความจริงที่ว่า โกอึนได้รับบทบาทที่เหมาะกับวัยของเธอ และความสามารถในการแสดงที่ผสมผสานความเป็นตัวเองให้เข้าตัวละครได้เป็นอย่างดี

ในบทสัมภาษณ์กับนักข่าวหลังซีรีส์จบลง คิมโกอึนได้กล่าวว่า “ฉันเป็นแฟนคลับของคุณอียุนจอง (ผู้กำกับ) มาตั้งแต่เด็กๆ และฉันก็คิดมาตลอดว่า ฉันอยากที่จะเล่นละครของเธอสักวันหนึ่งค่ะ” “ฉันรับรู้ได้ถึงภาระอันหนักหน่วงที่มาพร้อมกับซีรีส์เรื่องนี้ ทันทีที่มีบทความออกมาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความเหมาะสมของนักแสดงต่อตัวละคร ทำให้โกอึนคิดว่าการที่จะรับเล่นละครเรื่องนี้มีเดิมพันที่สูง” “พูดกันตามตรง ฉันรู้สึกวิตกกังวลมากค่ะ เนื่องจากสถานการณ์ในตอนนั้น ตารางงานของฉันนั้นไม่มีเวลาว่างพอ และจะต้องเหนื่อยมากๆ” อย่างไรก็ตาม ทางทีมงานของซีรีส์ก็ได้ปรับเปลี่ยนตารางการถ่ายทำเพื่อให้เธอสามารถรับบทนี้ได้ “ฉันรู้สึกว่า ฉันไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ค่ะ”

เส้นทางของซีรีส์ Cheese in the Trap นั้นไม่ได้มีแต่ความราบรื่น ในช่วงที่เรตติ้งเริ่มที่จะคงที่ ละครก็ได้เจอเข้ากับอุปสรรคครั้งใหญ่ “ความขัดแย้งเรื่องการตัดต่อ” ทั้งทีมงาน และทีมนักแสดงตกอยู่ในที่นั่งลำบาก คำพูดที่ธรรมดาๆเพียงไม่กี่คำ กลับกลายเป็นหัวข้อใหญ่ และนั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับคิมโกอึน

“นักแสดงนั้นเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของตัวละครสำหรับผู้ชม แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างมาก ที่ตัวนักแสดงเองที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง และทำให้ละครต้องได้รับผลกระทบไปด้วย”

คำพูดของโกอึนในช่วงหนึ่งของบทสัมภาษณ์ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ขึ้น เกี่ยวเนื่องกับปัญหาที่บทของนักแสดงนำหายไปในช่วงท้ายของละคร ความเชื่อมั่นของคิมโกอึนนั้นกลับมาจุดประเด็นความสงสัยของสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง สุดท้ายแล้วทำให้ซีรีส์ Cheese in the Trap ไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับตัวคิมโกอึน กลายเป็นเพียงความประทับใจที่เคยมี และได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วดังเช่นคลื่นลมที่รุนแรง

“ทุกช่วงเวลาล้วนสวยงาม Goblin”

ในระยะเวลาเกือบ 1 ปี คิมโกอึนก็ได้กลับมาพร้อมกับซีรีส์ทางช่อง tvN “Goblin” เป็นอีกหนึ่งผลงานของผู้เขียนบทคิมอึนซุก และผู้กำกับอีอึงบก ผู้สร้างผลงานยอดฮิตมามากมาย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความต้องการที่จะยุติชีวิตอมตะ นำเสนอออกมาในแนวทางลึกลับ โรแมนติก มีตัวละครนำเป็นก็อบลิน ที่ต้องตามหาเจ้าสาวที่เป็นมนุษย์, ยมทูตที่สูญเสียความทรงจำมาร่วมชะตากรรมที่ทุกข์ทรมานด้วย และหญิงสาวกับชะตากรรมที่ต้องตาย
ความสนใจที่มีต่อซีรีส์ก็อบลินนั้น ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ดังที่ผู้เขียนบทคิมอึนซุกได้การันตีด้วยตัวเองว่า “ฉันรอกงยูเพื่อมารับบทตัวละครนำชาย เป็นเวลา 5 ปี” ซีรีส์ก็อบลินกลายเป็นละครที่มีคนตั้งตารอคอยมากที่สุดของช่อง tvN

Photo tvN

อย่างไรก็ตาม ความเพ่งเล็งต่อคิมโกอึนนั้น ได้ถูกแบ่งความคิดเห็นออกเป็นสองฝั่ง กลุ่มผู้ชมที่เชื่อมั่นในความสดใสร่าเริงของเธอ กับกลุ่มคนดูที่ยังไม่ยอมรับถึงฝีมือของเธอ

คิมโกอึนได้คลายความกังวลของผู้ชมด้วยการแสดงออกถึงความรักที่พิเศษที่เธอมีต่อผลงานชิ้นนี้ว่า “ฉันพยายามที่จะออกจากภาพลักษณ์เดิม เมื่อตอนที่เล่นซีรีส์ Cheese in the Trap” “ใน Chesse in the Trap ฉันต้องการสื่อให้เห็นถึงคนในโลกความจริง แต่ผลงานซีรีส์ก็อบลินนั้นแตกต่างออกไป ตัวละครจะมีความหม่น และมีความชัดเจนของตัวละครมากขึ้น ลักษณะนิสัย และพฤติกรรมของตัวละครนั้นถูกบรรยายไว้ทั้งหมดในบทละคร ฉันอยากที่จะถ่ายทอดออกมาให้ได้ตามนั้น” โกอึนได้แสดงออกถึงความเชื่อมั่นของเธอที่มีต่อผู้เขียนบทคิมอึนซุก

โกอึนกล่าวต่ออีกว่า “เรื่องราวของซีรีส์ก็อบลินนั้นพูดถึงความเจ็บปวดของเด็กสาวอายุ 19 ปี การได้มีโอกาสแสดงร่วมกับรุ่นพี่กงยูนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทาย ฉันต้องถ่ายทอดบทพูดที่มีความซับซ้อนของอารมณ์ ตั้งแต่ระดับความเจ็บปวดจากการกระทบกระเทือนทางจิตใจ ไปจนถึงโศกนาฏกรรม “ฉันมีลักษณะนิสัยขี้เล่นที่คล้ายกับรุ่นพี่กงยู พวกเราจึงได้เล่นสนุกในกองถ่าย ทำให้ฉันรู้สึกไม่เกร็งจนเกินไป ต้องขอบคุณรุ่นพี่กงยูด้วยค่ะ ที่ทำให้บรรยากาศภายในกองถ่ายนั้นเต็มไปด้วยความสดใส”

กระแสความเป็นที่นิยมที่ร้อนแรงของซีรีส์ก็อบลินนั้นไม่ได้ลดลงเลยจวบจนถึงตอนสุดท้าย อีกทั้งยังสร้างสถิติเรตติ้งสูงสุดของช่องเคเบิ้ลอีกด้วย

แปล/เรียบเรียง Kim Go Eun Thailand Fan Club

**ไม่อนุญาตให้นำบทความที่แปลแล้วออกไปใช้ค่ะ**

source 김풀잎 TV리포트 기자 | 사진(제공) : 호도앤유엔터테인먼트, 화담픽쳐스 2017–02–01 09:31

--

--

Kim Go Eun Thailand Fan Club
Kim Go Eun Thailand Fan Club

Written by Kim Go Eun Thailand Fan Club

บทความแปลไทยโดยทีมแอดมิน Kim Go Eun Thailand Fan Club รวมบทความ ข่าว ที่เกี่ยวข้องกับคิมโกอึน :: บทความแปลทั้งหมดไม่ให้นำไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต ::

No responses yet