คิมโกอึนไม่ได้เป็นเพียงแค่ “เจ้าสาวของก็อบลิน”

Kim Go Eun Thailand Fan Club
2 min readMay 11, 2020

--

แปลบทสัมภาษณ์ของคิมโกอึนในนิตยสาร marie claire ฮ่องกง ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2017

จากบทบาทนักศึกษาในซีรีส์เรื่อง “Cheese in the trap” ไปจนถึง “Goblin” กับการสวมบทเจ้าสาวของก็อบลิน คิมโกอึนที่เพิ่งเข้าวงการมาเป็นเวลาเพียง 5 ปี แต่ความสามารถในการแสดงของเธอนั้นโดดเด่น และเหนือความคาดหมายเมื่อเทียบกับวัยของเธอ นั่นเป็นเพราะว่าโกอึนมีความสนใจในด้านการแสดงตั้งแต่เธอยังเด็ก

ในบ่ายวันหนึ่งที่อากาศสดใส คิมโกอึนได้มาเยี่ยมพวกเรา(ทีมงาน) ความสดใส และดูอ่อนวัยของเธอนั้นแฝงอยู่ในสีหน้า ท่าทางของเธอที่เต็มไปด้วยพลังงาน พูดคุยกับพวกเราอย่างเป็นกันเอง จากนั้นเราก็ได้เริ่มตั้งฉากเพื่อเตรียมการถ่ายภาพ ทันทีที่เริ่มการถ่ายภาพ โกอึนได้เก็บเอาความซุกซนของเธอเอาไว้ ประกอบกับฉากหลัง และเสื้อผ้าที่ได้เข้ามาเป็นส่วนประกอบ โกอึนได้แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ที่หลากหลาย ท่าทางที่เต็มไปด้วยอารมณ์การแสดงที่เข้มข้น นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำไมนิตยสารแฟชั่นอยากได้เธอมาร่วมถ่ายภาพด้วย

โกอึนได้สร้างความประทับใจให้กับเหล่าผู้ชมเป็นอย่างมาก กับผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดของเธอ “Goblin” ซึ่งหลังจากการถ่ายทำ เธอได้เขียนจดหมายที่มีใจความว่า

“ฉันรู้สึกขอบคุณที่รักซีรีส์ก็อบลิน และอึนทัคมาโดยตลอดนะคะ
คิมโกอึนเป็น ‘จีอึนทัค’ ซึ่งเป็นเจ้าสาวของคิมชิน ฉันยังไม่รู้สึกว่าละครเรื่องนี้จบลงแล้วจริงๆ และยังคิดว่าก็อบลินจะมาปรากฎที่ข้างหน้าของฉัน ถ้าฉันเป่าเทียน

เป็นฤดูหนาวที่มีความสุขมาก และเต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ เป็นเพราะละครเรื่องนี้ และการที่ได้พบกับอึนทัคของฉัน ผู้ซึ่งกำลังใช้ชีวิตที่สองของเธออยู่ และจะมีช่วงเวลาที่มีความสุขร่วมกับก็อบลิน..

ฉันจะเห็นคุณค่าของความรักที่พวกคุณมอบให้กับฉันเสมอค่ะ และฉันจะแสดงให้เห็นการแสดง และภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นไปอีกค่ะ
ขอบคุณค่ะ!

ปล. เป็นช่วงเวลาที่สว่างสดใส เพราะฉันได้พบกับละคร ‘ก็อบลิน’
เพราะอากาศดี
เพราะอากาศไม่ดี
เพราะอากาศพอใช้
ทุกวันล้วนเป็นวันที่ดี 💛”

ลงชื่อ คิมโกอึน กอนทัค

โกอึนมีความกดดันไหมที่ต้องแสดงร่วมกับนักแสดงรุ่นพี่กงยู?

ถึงจุดนี้หลายคนคงจะสามารถจินตนาการถึงความชื่นชอบ เป็นที่นิยมและความสำเร็จของละครเรื่องนี้หลังจากที่ฉายจบได้เป็นอย่างดี แต่ก่อนหน้านั้นเคยมีคำถามขึ้นว่า โกอึนมีความกดดันไหมที่ต้องแสดงร่วมกับนักแสดงรุช่นพี่กงยู ซึ่งเธอได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันรู้สึกกดดันมากค่ะ จริงๆ แล้วฉันเป็นแฟนคลับของคุณกงยูด้วยค่ะ ฉันชอบการแสดงของเขามากตั้งแต่เรื่อง Coffee Prince และถือเป็นเกียรติอย่างมากสำหรับฉัน ที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับเขาค่ะ” เธอตอบพร้อมกับรอยยิ้ม

ก่อนเริ่มการถ่ายทำในแต่ละฉาก โกอึนและกงยูมักจะพูดคุยกัน โดยที่กงยูมักจะพูดว่าจะแสดงอย่างไรให้ออกมาดูตลกในฉากถัดไป ความตั้งใจในการแสดงของเธอ ทำให้โกอึนเป็นที่จดจำในทุกผลงานละครที่เธอได้ร่วมแสดง

เธอได้เล่าว่า หนึ่งในความทรงจำประทับใจกับการถ่ายทำละครก็อบลิน คือตอนที่กองถ่ายได้บินไปถ่ายทำที่ประเทศแคนาดา เพื่อถ่ายทำฉากที่ตัวละครอึนทัคได้พบกับตัวละครของกงยูอีกครั้ง หลังจากพลัดพรากกันเป็นระยะเวลา 9 ปี ก่อนที่จะถ่ายทำฉากนี้ ทั้งสองคนรู้สึกกดดันมาก กลัวว่าจะแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวละครทั้งสองคนในช่วงเวลาที่ผ่านหลายปีไม่ได้ ดังนั้นทั้งสองคนจึงตั้งใจถ่ายทอดการแสดงฉากนี้ให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ฉากนี้มีโอกาสที่จะเป็นหนึ่งในฉากที่ได้รับความสนใจของแฟนๆมากที่สุด เนื่องจากเป็นฉากที่ทั้งสองตัวละครมีความสุขมาก โกอึนได้โชว์ให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่เป็นธรรมชาติในละครก็อบลิน ซึ่งเธอรับบทบาทที่มีสไตล์การแต่งหน้าที่ดูเป็นตัวเธอ แสดงถึงความเรียบง่าย

โกอึนได้ให้สัมภาษณ์ว่า

“ฉันไม่ชอบการแต่งหน้าหนักมากเกินไป ฉันชอบการแต่งหน้าที่โชว์ให้เห็นถึงผิวสุขภาพดี ด้วยคอนซีลเลอร์ และแต่งแต้มสีสันเล็กน้อย คิ้ว และการแต่งตาจะต้องไม่เข้มหนาจนเกินไปค่ะ”

ผู้อ่านคงจะได้เคล็ดลับสำคัญนี้แล้วใช่ไหมคะ

ผลงานภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่จะได้มาฉายในงานภาพยนตร์ที่ประเทศฮ่องกง เรื่อง “Canola” โกอึนสวมบทบาทเป็นหลานสาวที่ต้องพลัดพรากกับคุณยายเป็นระยะเวลาเกือบ 12 ปี โดยเธอต้องไปปรับตัวการใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง แสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ ความรักระหว่างหลานสาว และคุณยาย การแสดงของเธอนั้นได้สร้างน้ำตาให้กับเหล่าผู้ชม ซึ่งโกอึนได้เล่าว่า เธอมีความรู้สึกที่พิเศษกับคุณยายของเธอ จากประสบการณ์ของตัวเธอเอง “ฉันใช้เวลาอยู่กับคุณยายเป็นระยะเวลา 6 ปี ในช่วงมหาวิทยาลัย หลังจากที่ได้อ่านบท ฉันรู้สึกผูกผันกับเรื่องราว และร้องไห้อยู่เป็นเวลานาน หลังจากที่ได้อ่านบทตัวละครแล้ว ฉันตัดสินใจที่จะรับแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ทันที”

ทักษะทางการแสดงของนักแสดงแต่ละคนมักจะมีพื้นฐานมาจากประสบการณ์ที่พิเศษ และโกอึนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นเดียวกัน

ในช่วงวัยเด็กเธอใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองปักกิ่งเป็นเวลา 10 ปี ครึ่งหนึ่งใช้ชีวิตอยู่ในเมือง และอีกครึ่งหนึ่งในแถบพื้นที่ห่างไกล ณ ช่วงเวลานั้น ในความรู้สึกของเธอเมืองที่เธออยู่นั้นถือว่าเป็นชนบทมากกว่าในปัจจุบัน เธอเล่าว่า “มีคลองใหญ่อยู่ข้างบ้านค่ะ ฉันสามารถขี่ม้า และเล่นกับสุนัข” ช่วงชีวิตในชนบทนี้เองที่ทำให้ที่เธอออกห่างจากความวุ่นวาย ทำให้ความรู้สึกของเธอนั้นเติบโตมาอย่างไม่เร่งรีบ ไม่มีอะไรที่จะสำคัญสำหรับนักแสดงไปมากกว่าหัวใจที่บริสุทธิ์ ทำให้เธอมีความรู้สึกที่พิเศษผ่านประสบการณ์ชีวิต

“ก่อนที่จะเข้าวงการ ฉันได้ไปท่องเที่ยวที่ประเทศฮ่องกงกับคุณแม่ค่ะ ได้ลองขนมตามท้องถนนหลายอย่าง ได้ไปเยี่ยมชมถนนที่มีชื่อเสียง ภาพคลาสสิกที่เคยได้เห็นจากภาพยนตร์ฮ่องกงหลายเรื่องได้ผ่านเข้ามาในหัวของฉัน ฉันมองหาโอกาสที่ได้ลิ้มลองขนมตามท้องถนน เดินเที่ยวชมไปรอบๆ เมือง และอยากที่จะได้เรียนรู้การใช้ชีวิตของคนในฮ่องกงมากขึ้น”

นอกจากการทำงาน เธอให้ความสำคัญกับการใช้เวลาร่วมกับครอบครัวของเธอเช่นเดียวกัน เธอมีกลุ่มแชทออนไลน์กับสมาชิกในครอบครัว ซึ่งเธอมักจะถ่ายรูป และส่งไปให้พวกเขาดูว่าเธอได้ทานอะไรไป

หลังจากรับบทการแสดงมา อาจจะเป็นเวลาหลายเดือนที่เธอไม่ได้พบหน้าครอบครัว เธอจะแบ่งเวลาที่จะมาพูดคุยกับครอบครัวของเธอผ่านโทรศัพท์ และระหว่างการถ่ายทำเธอก็มักจะพยายามหาเวลาที่จะไปเจอครอบครัวของเธอ

เราได้สอบถามเธอว่า เธอแทบจะไม่มีเวลาส่วนตัวเลยใช่ไหม? โกอึนตอบพร้อมกับรอยยิ้มว่า “ไม่ ไม่เลยค่ะ” ทุกคนที่รู้จักเธอจะรู้ว่า เธอรักการร้องเพลง การร้องเพลงเป็นสิ่งที่ชอบนอกเหนือจากการแสดง เมื่อไรที่ฉันมีเวลา ฉันจะไปพบปะกับเพื่อนๆ และร้องคาราโอเกะ และฉันมักจะต้องร้องเพลงของนักร้อง อีโซรา กับบทเพลง The wind blows ฉันรู้สึกดีมากๆ ที่ได้ร้องคาราโอเกะ และจิบไวน์สักแก้วกับเพื่อน เมื่อไรที่ฉันได้พูดถึงช่วงเวลานั้น แค่นั้นก็มีความสุขแล้วค่ะ”

แปลไทย Kim Go Eun Thailand Fan Club by Admin Wah

แปลบทสัมภาษณ์ของคิมโกอึนในนิตยสาร marie claire ฮ่องกง ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2017 (แปลเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2017)

**ไม่อนุญาตให้นำบทความที่แปลแล้วออกไปใช้ค่ะ**

--

--

Kim Go Eun Thailand Fan Club
Kim Go Eun Thailand Fan Club

Written by Kim Go Eun Thailand Fan Club

บทความแปลไทยโดยทีมแอดมิน Kim Go Eun Thailand Fan Club รวมบทความ ข่าว ที่เกี่ยวข้องกับคิมโกอึน :: บทความแปลทั้งหมดไม่ให้นำไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต ::

No responses yet