ความน่ารักฉบับ Retro ของคิมโกอึน พัคจินยอง สองนักแสดงนำจากซีรีส์ยูมิเซลล์ซีซั่น 2

Kim Go Eun Thailand Fan Club
3 min readJul 6, 2022

--

แปลบทสัมภาษณ์คิมโกอึน พัคจินยอง ELLE Korea เดือนกรกฎาคม 2022

ช่วงเวลาที่มีแค่เราสองคน ยูมิและบาบิถ่ายภาพที่ระลึกก่อนที่เขาทั้งสองคนจะกลายเป็นแค่ความทรงจำของกันและกัน

ELLE Korea

ก่อนการสัมภาษณ์ เราได้ถ่ายทำ ‘Dating Counseling Center’ สำหรับเผยแพร่บน ELLE YouTube แล้วในชีวิตจริงล่ะคะ? คุณเคยให้คำปรึกษาเรื่องความรักหรือเคยรับการปรึกษาเรื่องความรักหรือเปล่าคะ หรือคุณสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเองเลย?

จินยอง: ผมเป็นประเภทที่ทั้งไม่เคยให้และรับการปรึกษาเรื่องความรักครับ อย่างที่เห็นระหว่างการถ่ายทำ ผมไม่เก่งเรื่องให้คำปรึกษา พอพี่โกอึนได้ยินก็ยังบอกว่า “จินยองอา เธอไม่ควรให้คำปรึกษาเรื่องความรักนะ” แต่พี่เค้าแตกต่างจากผมใช่ไหมล่ะครับ? ผมว่าพี่โกอึนสามารถให้คำปรึกษาได้ในทุก ๆ เรื่องเลย ไม่ใช่แค่เรื่องความรักอย่างเดียวครับ

โกอึน: มีหลายคนที่เข้ามาขอคำปรึกษาเรื่องความรักกับฉันค่ะ ปกติแล้วเวลาเพื่อนสนิทมาขอคำปรึกษาเราก็จะชอบพูดแบบใช้อารมณ์ใช่มั้ยล่ะคะ? แต่ฉันไม่เป็นแบบนั้นค่ะ ฉันจะมองดูสถานการณ์ให้อย่างตรงไปตรงมา อาจจะเป็นเพราะฉันเป็นคนชอบมองทุกอย่าง อย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้นฉันจึงมักจะมองสถานการณ์ของคนอื่นแบบนั้นเหมือนกันค่ะ

คุณทั้งสองคนดูสนิทกันมากเลยค่ะ

โกอึน: เราได้เจอกันในซีรีส์เรื่องนี้ค่ะ ตอนแรกจินยองดูเงียบ ๆ และขี้อาย(เวลาอยู่กับคนแปลกหน้า) ตอนนั้นฉันกำลังถ่ายทำ “Yumi’s Cells” อยู่ค่ะ และเขาก็เริ่มเข้ามาในช่วงท้ายของซีซั่น 1 คิดว่าเขาน่าจะรู้สึกไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมแน่ ๆ เพราะงั้นฉันจึงพยายามช่วยให้เขาผ่อนคลายให้ได้มากที่สุดค่ะ

จินยอง: ตอนนั้นผมยังแบบเกร็งมากเลยครับ ตอนนี้ผมเริ่มปรับตัวได้มากขึ้นแล้ว ต้องขอบคุณพี่โกอึนที่ดูแลผมเป็นอย่างดี

เป็นเรื่องดี(แปลกใหม่)ที่เราได้เห็นละครที่มีนักแสดงนำชายเปลี่ยนไปในแต่ละซีซั่น ในมุมมองของการแสดงก็น่าจะไม่คุ้นเคยเหมือนกันนะคะ ความรู้สึกที่ได้ถ่ายทำซีซั่น 2 เป็นอย่างไรบ้างคะ?

โกอึน: คิดว่าไม่ได้เป็นเรื่องน่าแปลกอะไรนะคะ เมื่อเราได้พบกับคน ๆ หนึ่งแล้วเลิกรากันไป ตั้งใจทำงานเพื่อที่จะลืมความเจ็บปวดของการจากลา พอมีคนใหม่เข้ามาหา ด้วยเพราะความทรงจำที่เจ็บปวดก็เลยอาจจะปฏิเสธและใช้เวลาในการคิดว่าจะเริ่มต้นความรักใหม่ได้มั้ย แต่แล้วก็คิดว่าตัวเองคงจะเสียใจหากไม่คว้าความรักครั้งนี้ไว้ ฉันคิดว่ากระบวนการแบบนี้เป็นเรื่องปกติและธรรมดามาก ๆ และคิดว่ามันคือเรื่องที่เป็นไปตามธรรมชาติค่ะ

ELLE Korea

น่าสนใจมากตรงที่นักเขียนซงแจจองได้กล่าวในการให้สัมภาษณ์หลังจบซีซัน 1 ว่าเธอ “ตั้งใจที่จะตีความตัวละครชายใหม่” อ้างอิงตามต้นฉบับเว็บตูน ยูบาบิ เป็นตัวละครที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบมากมาย โดยทางนักเขียนซงแจจองมีความสนใจที่ลองทำตัวละครนี้ให้ออกมาในทิศทางที่อาจจะแตกต่างออกจากในเว็บตูน

จินยอง: ตามต้นฉบับเว็บตูน บาบิเป็นตัวละครที่มีด้านที่น่าสงสัยใช่ไหมล่ะครับ? ต่อให้สคริปท์จะได้รับการแก้ไข แต่นั่นก็ไม่ทำหลุดออกจากคาแรคเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของบาบิได้เลยครับ เพราะฉะนั้นแทนที่จะโชว์ทักษะของตัวเอง ผมคิดว่าผมควรทำตามสคริปท์ให้ดีดีกว่า ผมไม่รู้ว่าบาบิที่ผมแสดงจะเป็นที่ยอมรับได้ไหม แต่ผมคิดว่ามันน่าจะสนุกถึงแม้ว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ เพราะถ้าในมุมมองการแสดงนั่นหมายความว่าผมแสดงออกมาได้ดีไงล่ะครับ ผมคิดไว้ว่าถ้าจะโดนต่อว่า ก็ขอโดนแบบเท่ ๆ ละกันครับ

หลังจากได้ดูตอนระหว่างถ่ายทำ คิดว่าเซลล์ไหนที่เหมาะที่สุดสำหรับแต่ละคนคะ

โกอึน: สำหรับจินยองต้องเรียกว่า ‘เซลล์ดวงตา’ รึเปล่านะคะ? พอดูมอนิเตอร์ตอนที่ถ่ายมุมใกล้ (Bust Shot) แล้ว ดวงตาของเขาลึกมากเลยค่ะ แม้ตอนที่เค้าแค่ลืมตาอยู่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังบอกเล่าเรื่องราวอย่างกับได้พูดคุยกัน ดวงตานั้นมอบพลังงานให้ฉันค่ะ ก็เลยบอกจินยองบ่อย ๆ ระหว่างถ่ายทำว่า “เป็นข้อดีนะที่มีดวงตาแบบนี้” “หลายคนต้องอิจฉาแน่ ๆ”

จินยอง: มี 3 อย่างที่ผมนึกออกครับ อย่างแรกคือ ‘เซลล์มั่นคง’ ผมไม่รู้ว่าในใจพี่รู้สึกยังไงแต่พี่กลับไม่ได้ทำแบบนั้น พี่โกอึนเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายในทุกสถานการณ์ อย่างที่สองคือ ‘เซลล์ยืดหยุ่น’ พี่เค้าสามารถอดทนต่อความยากลำบาก และมีความยืดหยุ่นสูง(ปรับตัวง่าย)ที่จะยอมรับทุกสถานการณ์ด้วย และอย่างที่สามคือ ‘เซลล์อัจฉริยะ’

โกอึน: ว้าว อัจฉริยะก็ออกมาด้วยหรอ?

จินยอง: ตอนนี้เซลล์พี่กำลังวุ่นวายกันใช่มั้ยครับ? แต่ผมหมายความแบบนั้นจริงๆ ตอนที่ได้ดูพี่แสดง พี่คืออัจฉริยะจริง ๆ ครับ

ถ้ามีโอกาสได้แสดงเป็นตัวละครเซลล์ อยากเล่นเป็นเซลล์แบบไหนคะ?

โกอึน: เซลล์ลามก? 555555 เค้าน่ารักนะคะ

จินยอง: เซลล์ลามกไม่ได้ใส่กางเกงนะ โอเคเหรอครับ?

โกอึน: กังวลนิดนึงเกี่ยวกับเรื่องนั้น แต่มันก็น่าสนุกนะถ้าได้แสดง เซลล์งานบ้านที่พูดทุกอย่างที่ชอบก็น่าสนใจเหมือนกัน

จินยอง: ผมก็คิดว่าเซลล์ลามกก็น่าจะสนุกเหมือนกันครับ นอกจากนี้ยังมีเซลล์ที่เราโปรโมทอย่างมากในซีซั่น 2 ! โปรดติดตามผลงานของเซลล์ลิ้นในฉากจูบระหว่างยูมิและบาบิด้วยนะครับ อีกทั้งระหว่างที่ผมแสดงตอนที่เซลล์ลิ้นปรากฏตัวขึ้นก็มีความลำบากอยู่เหมือนกันครับ บทพูดของเซลล์ที่ทำแอนิเมชั่นในช่วงหลัง ๆ นั้น สมาชิกทีมกำกับการแสดงจะอ่านให้ฟัง แต่ผู้ช่วยผู้กำกับของทีม B พูดภาษาถิ่นครับ ผมเลยได้แสดงในท่ามกลางภาษากลางโดยมีสำเนียงผสมกับภาษาถิ่น และมันก็ตลกมากจนรู้สึกอึดอัดหน่อยๆ ครับ อย่างเช่น “ยูมิยา ทำอะไรอยู่” (สำเนียงภาษาถิ่น)

โกอึน: ทุกครั้งที่เป็นแบบนั้น ก็ทั้งกลั้นหัวเราะและแสดงไปด้วยค่ะ

ข้อความบทนี้จากซีซัน 1 ของซีรีส์ยูมิเซลล์ ‘ยูมิเป็นตัวเอกคนเดียวในเรื่องนี้’ ทำฉันประทับใจมากค่ะ ในความเป็นจริงมีหลายคนที่ไม่สามารถใช้ชีวิตเป็นตัวเอกในชีวิตได้เพราะมัวแต่สนใจสายตาของคนอื่น แล้วทั้งสองคนใช้ชีวิตด้วยความเชื่อที่ว่า ‘สิ่งสำคัญอันดับ 1 ในชีวิตคือตัวคุณเอง’ หรือเปล่าคะ?

จินยอง: ผมไม่สามารถเพิกเฉยต่อความคิด(สายตา)ของคนอื่นได้เนื่องด้วยเพราะงานของผม แต่ก็ยังคงโฟกัสไปที่ตัวเอง ผมห่วงใยครอบครัวมากกว่าใครครับ

โกอึน: ฉันก็ด้วย ฉันรู้สึกมีความสุขก็ต่อเมื่อคนที่ฉันรักมีความสุขค่ะ เรียกว่าใส่ใจกับความรู้สึกมากกว่าสายตาคนอื่นได้ไหมคะ ความรู้สึกของคนที่ฉันอยู่ด้วยมักเข้ามาหาฉันโดยธรรมชาติ รู้สึกได้เลยค่ะ

จินยอง: พี่เค้าความรู้สึกไวมากเลยครับ ตอนนั้นเป็นวันที่การแสดงของผมออกมาไม่ค่อยดีและร่างกายก็เหนื่อยล้า ผมคิดว่าผมควบคุมสีหน้าได้ดีแล้วนะ แต่ไม่รู้ว่าพี่เค้ารู้ได้ไง พี่โกอึนแอบเดินเข้ามาเงียบๆ มาบอกว่า “ไม่เป็นไรนะ” แล้วก็ตบไหล่ครับ

โกอึน: วันนี้ฉันเหมือนได้เป็นฮีโร่สุดเท่เลย

จินยอง: ผมคิดแบบนั้นจริงๆนะ ผมกำลังหาเวลาพูดอยู่เลยเพราะมีเรื่องที่ต้องขอบคุณพี่มากมาย แล้วมันคือวันนี้สินะครับ (หัวเราะ)

ELLE Korea

นักแสดงเป็นอาชีพที่มองเข้าไปในจิตใจของคนอื่น ในกระบวนการนี้ต้องยอมสละพื้นที่ตัวเองให้กับตัวละครสักระยะในขณะที่ฉายภาพตัวเองอยู่ตลอดเวลา แต่ฉันคิดว่าถ้าเป็นแบบนั้นคงจะทั้งสนุกและเหงานะคะ

โกอึน: กระบวนการในการค้นหา(คาแรคเตอร์)บางครั้งก็เจ็บปวดค่ะ ตอนที่เรายังจับคาแรคเตอร์ไม่ได้ก็จะรู้สึกเหมือนกำลังลอยอยู่กลางทะเล ถึงจะเริ่มถ่ายทำแล้วแต่ก็ต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะรวมคาแรคเตอร์เข้าด้วยกันได้หมดค่ะ จากนั้นเมื่อคุณรู้สึกได้และบางอย่างเริ่มเปิดขึ้น สิ่งต่าง ๆ จะดีขึ้นเล็กน้อยนับจากนั้น แต่ก่อนหน้านั้นคือการต่อสู้ที่โดดเดี่ยวเพราะนั่นไม่ใช่สิ่งที่ใคร ๆ จะมาทำแทนได้ ก็เลยได้ทึ้งหัวอยู่คนเดียว แน่นอนว่านี่คือเรื่องปกติที่ต้องทำค่ะ

จินยอง: เมื่อไม่กี่ปีก่อนผมได้ตัดสินใจที่จะมาแสดงอย่างจริงจัง แต่เมื่อผมมองย้อนกลับไปถึงผลงานที่ได้ทำในช่วงเวลานั้นมันไม่ง่ายเลย กระบวนการในการค้นหาคาแรคเตอร์นั้นยากครับ แต่เมื่อรวมคาแรคเตอร์ตัวละครได้แล้วมันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของผมครับ เวลาดูทีวีแล้วเจอตัวละครที่เหมือนกับตัวที่ผมเคยเล่นก็จะรู้สึกร้อนใจขึ้นมาเลย ยังคงมีความกระตือรือร้นแบบนั้นอยู่ครับ ผมในตอนนี้อยู่ในสถานะ(มีไฟมากๆๆๆ) “Passion! Passion! Passion!” (หัวเราะ)

เป็นเรื่องแปลกนะคะที่นักแสดงคิมโกอึนที่ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้ดี ไม่สามารถแสดงอารมณ์ออกมาได้ดีในชีวิตประจำวัน

โกอึน: ฉันควรอธิบายยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้ดี? มันยากที่จะอธิบายด้วยคำพูดค่ะ ถ้าการแสดงออกของฉันไม่ชัดเจนก็จะรู้สึกว่า ‘ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น’ รู้สึกอึดอัดด้วยค่ะ พอเป็นแบบนั้นก็พูดน้อยลง เวลาแบบนั้นถ้าได้ดูรายการวาไรตี้เกาหลีแล้วหัวเราะก็จะอารมณ์ดีขึ้น แต่จะไม่ค่อยดูหนังหรือละครนะคะ เพราะยิ่งพอเวลาฉันติดละครหรือพลาดสักตอน ก็จะกลายมากวนใจอีก….

จินยอง: แต่ถึงอย่างนั้น ก็มีละครที่พี่เพิ่งดูไปช่วงนี้นี่ครับ

โกอึน: “ซีรีส์เรื่อง Our Blues!” เวลาดูทีวีแล้วพูดคนเดียวเก่งค่ะ ตอนได้ดู “Our Blues” ก็อินมากพูดอยู่คนเดียว ‘นี่ไม่เมคเซ้นส์เลย!’ แล้วก็ส่งข้อความไปหารุ่นพี่บยองฮอนกับพี่จีมินทันทีเลยค่ะ “จบแบบนี้ได้ยังไงคะ?” “ฉันจะรอทั้งอาทิตย์ได้ยังไงกันคะ!”

ELLE Korea

ล่าสุดร้องไห้และหัวเราะกับเรื่องอะไรคะ

โกอึน: เมื่อไม่นานมานี้ฉันรับลูกสุนัขมาเลี้ยงจากศูนย์พักพิงสัตว์ค่ะ เค้าไม่สามารถแม้แต่จะขึ้นลงบันไดได้อย่างปกติ มีเหตุฉุกเฉินมากมายตั้งแต่พาเค้ามา ฉันวิ่งไปโรงพยาบาลตอนเที่ยงคืนและบางครั้งก็ร้องไห้คนเดียว การที่ได้ดูแลเค้าที่ป่วยหนักจนมีสุขภาพแข็งแรง ความสุขแบบนั้นไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้เลยค่ะ ตอนที่เค้ากำลังวิ่งไปรอบๆ ตอนที่ฉันเห็นเค้า “โอ้ ที่รัก ฉันภูมิใจในตัวเธอมาก!” ใช่แล้วค่ะเมื่อเร็ว ๆ นี้ ฉันร้องไห้มากที่สุดและหัวเราะออกมาได้ดังๆ เพราะฉันใช้เวลาอยู่กับเขาค่ะ เขาชื่อวอล คิมวอล!

จินยอง: สำหรับผมคือช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันกับสมาชิกวง GOT7 ครับ บางทีผมอาจจะเคยชินกับช่วงเวลานั้นแล้ว วันนี้ผมอยู่ที่ห้องรอคนเดียวและรู้สึกแปลกๆที่เงียบอ่ะครับ พวกเราเสียงดังกันมากเลยครับตอนที่ได้เจอกัน ดีใจ มีทะเลาะกันบ้าง และบางครั้งก็พูดคำหยาบที่แสดงความรักต่อกันโดยไม่มีเหตุผล ทั้งหมดนี้สนุกมาก พอเพื่อนสนิททั้ง 7 คนได้มาเจอกันในโปรเจคต์หลังจากผ่านไปนานก็เลยหัวเราะกันเยอะเลยครับ

เมื่อเดือนพฤษภาคมใช่มั้ยคะ? แฟน ๆ ของ GOT7 คงจะมีความสุขกันแน่เลยค่ะที่ได้เห็นการคัมแบ็คของคุณกับ “NANANA” และในขณะเดียวกันฉันก็มั่นใจค่ะว่าคุณต้องมีความสุขที่ได้ทำอะไรบางอย่างให้คน(แฟน)ที่รออยู่

จินยอง: ใช่แล้วครับ มันมีความรู้สึกแบบนั้นอยู่ครับ อย่างที่ผมบอกไปเมื่อสักครู่นี้ ผมรู้สึกขอบคุณแฟน ๆ และนั่นคือสิ่งที่ผมต้องทำและตั้งใจทำให้ดีที่สุดครับ พอได้มาเจอแฟน ๆ ที่คอนเสิร์ตในรอบสองปีครึ่ง และได้ฟังเสียงของพวกเขาอย่างใกล้ชิด (คิดในใจ) ‘อ๋อ แบบนี้สินะ’ ‘คิดถึงแบบนี้สินะ’ นั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึกได้อย่างชัดเจนครับ

การได้พบและพูดคุยสื่อสารกับแฟน ๆ ถือเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ของศิลปิน คุณโกอึนก็มีแฟน ๆ ที่สนับสนุนเยอะเลยนะคะ

โกอึน: ศิลปินสามารถเจอแฟนคลับได้อย่างใกล้ชิดผ่านการจัดคอนเสิร์ต เพราะอย่างนั้นทั้งแฟนคลับและศิลปินก็เลยได้มีการเติมเต็มความปรารถนาของกันและกันได้ค่ะ ตรงกันข้ามกับฉันนะคะที่ไม่มีอะไรที่พอทำได้นอกเหนือจากการทำกิจกรรมหรือโปรโมทผลงานค่ะ ดังนั้นเมื่อฉันได้รถกาแฟจากแฟน ๆ ฉันก็ได้แต่คิดว่า “ฉันจะตอบแทนพวกเขาได้อย่างไร” มันวิเศษมากเลยนะคะที่พวกเค้าสนับสนุนฉันมาเป็นเวลายาวนานด้วยแค่ผลงานของฉัน ดังนั้นฉันจึงต้องการที่จะตอบแทนโดยการจัดงานแฟนมีตติ้งสำหรับครบรอบ 10 ปีของพวกเราค่ะ

จินยอง: จะร้องเพลงในงานแฟนมีทติ้งด้วยไหมครับ? พี่เค้าร้องเพลงเพราะมากเลยนะครับ!(หัวเราะ)

ชื่อเพลงที่คุณทำกับยูคยอมคือ ‘Don’t Care About Me’ (ไม่ต้องห่วงฉัน) ทั้งสองคนเคยไหมคะ? แบบที่อยากบอกกับผู้คนว่า ‘อย่าห่วง(กังวล)เลย’

โกอึน: มีค่ะ ความฝันของฉันคือการที่ได้มีผลงานมากมายค่ะ และคิดว่าต้องทำงานต่อไปเรื่อย ๆ ผลก็คือตารางงานล่าสุดก็เลยยุ่งนิดหน่อยและตารางงานถัดไปก็จะยุ่งเหมือนกัน ฉันเลยอยากจะบอกว่า ‘จะทำงานไปอย่างสุขภาพแข็งแรงและไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ’

จินยอง: ผมเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ผมเคยคิดถึงเกี่ยวกับงานอื่น” บางทีผมอาจจะทำให้แฟน ๆ เข้าใจผิดไป และคงจะคิดว่า ‘จินยองคงจะออก(เลิกทำ)แล้วสินะ’ ล่าสุดผมจัดงานแฟนไซน์ผ่านวีดีโอคอล ทุกคนแบบจริงจังกันมากเลย “จินยองอา ฉันดูสัมภาษณ์แล้วนะ โอเคมั้ย?” “พวกเราอยู่เคียงข้างคุณนะ” อะไรแบบนี้อ่ะครับ ผมรู้สึกขอบคุณนะ แต่ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะครับ ดังนั้นผมก็เลยอยากจะขอยืมพื้นที่ตรงนี้บอกอย่างชัดเจนเลยว่า คุณไม่ต้องกังวลกับเรื่องนั้นเลยครับ

ELLE Korea

ทั้งคู่เดบิวต์ในปีเดียวกันคือปี 2012 อะไรคือสิ่งที่เปลี่ยนไปใน 10 ปีที่ผ่านมา และมีสิ่งไหนที่ยังคงเหมือนเดิมคะ

โกอึน: ที่เปลี่ยนไปคือฉันปรับตัวได้มากขึ้น? แน่นอนค่ะว่าต้องมีการเติบโตมากขึ้นผ่านการใช้ชีวิตในสังคมและการรับมือกับสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมา นอกนั้นฉันว่าก็เหมือนเดิมหมดนะคะ เพื่อนที่สนิทที่สุดของฉันก็ยังเป็นเพื่อนสมัยมัธยมต้นและมัธยมปลายค่ะ

จินยอง: สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ ‘ผม’ ครับ ตอนแรกผมคิดว่าสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไปเยอะครับ แต่พอดูดี ๆ แล้ว สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือตัวผมเอง อุปนิสัย บุคลิกภาพ และแม้กระทั่งความคิดก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อ 10 ปีก่อนก็จะคึกคะนองนิดหน่อย เหมือนเม่นที่มีหนามแหลมคมเลยครับ

โกอึน: เหมือนเม่น?

จินยอง: ใช่ครับ เหมือนเม่น ทุกคนต่างก็เก็บความโกรธไว้ข้างในหัวใจใช่ไหมครับ แล้วมันก็หลอมรวมกันเหมือนกับลาวา จากนั้นมันก็ถูกเจียระไนเรื่อย ๆ จนกลายเป็นก้อนที่ค่อนข้างกลมมากขึ้น เมื่อไรก็ตามที่ผมมีสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น มันจะค่อย ๆ ถูกทำให้ลดลงทีละเล็กทีละน้อยจนกระทั่งตอนนี้ผมรู้สึกสบายใจมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะแล้วครับ (ผู้แปล: สำหรับพาร์ทนี้การแปลอาจจะไม่ค่อยตรงนะคะ เพราะยังไม่เข้าใจความหมายที่จินยองกำลังจะสื่อถึง ต้องขออภัยด้วยค่ะ)

ความปรารถนาที่อยากจะปล่อยวางหรือความปรารถนาที่อยากจะเติมเต็ม อันไหนแข็งแกร่งกว่ากันคะ?

โกอึน: ปล่อยวางมาสักพักละค่ะตอนนี้ต้องเติมให้เต็มละ (หัวเราะ) เพราะว่าตอนที่ทำงานก็จะยุ่งมาก พอได้มีเวลาพักก็เลยจะไม่ทำอะไรแถมยังเลี่ยงหนังสือที่อ่านบ่อย ๆ อีกด้วยนะคะ เพราะฉะนั้นความรู้บางส่วนก็เลือนหายไป ลืมคำศัพท์ไปหลายคำเหมือนกัน ต้องฝึกสติและเสริมความรู้ใหม่อีกครั้งค่ะ

จินยอง: ผมมีสิ่งที่อยากปล่อยวางครับ ผมอยากปล่อยวางความยึดติดและกัดไม่ปล่อยของตัวเอง ในอดีตผมเคยเป็นเหมือนดั่งเปลวไฟ กดดันและบอกกับตัวเองว่า “ต้องทำได้!” ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้ เพราะถึงแม้จะห่างกันแค่หนึ่งก้าวแต่ผลลัพธ์ก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างกันมากครับ

มีหลายคนที่สนับสนุนความรักของบาบิกับยูมิที่เพิ่งเริ่มต้นใหม่หลังจากเลิกกับกูอุง (อันโบฮยอน) เพราะงั้นจะลองถามดูนะคะว่าคุณเห็นด้วยกับเพลงที่ชื่อว่า ‘사랑이 다른 사랑으로 잊혀지네’(ความรักที่ถูกลืมโดยความรักอื่น) ไหมคะ?

โกอึน: ฉันเห็นด้วยค่ะ!

จินยอง: ผมคิดว่ามันแตกต่างกันออกไปครับ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่คุณได้พบและเดทกับใคร ถ้าหากคุณเลิกกันในขณะที่ความรู้สึกของคุณที่มีต่ออีกฝ่ายยังไม่จบลง คุณก็อาจจะสามารถลืมเขาได้ด้วยคนอื่น เช่น การมีแฟนใหม่ และถ้าคุณเลิกกับเขาตอนที่ความรู้สึกของคุณจบลงแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะลืมคนเก่า คำตอบของผมคือ ดูไปเป็นกรณี (ขึ้นอยู่กับสถานการณ์)ครับ

และสุดท้ายนะคะ ถ้าเราสามารถอธิบายซึ่งกันและกันด้วยคำหนึ่งคำ

โกอึน: ‘มนุษย์ผู้อบอุ่น!’ เหมือนราวกับมีไฟในใจเขา ถึงจะคล้ายกับเม่นแต่แก่นแท้(นิสัย)ของจินยองนั้นอบอุ่นมากค่ะ

จินยอง: ‘ตัวจริง!’ พี่เป็นเหมือนพี่สาวจริงๆ สำหรับผมครับ

ELLE Korea

SOURCE ELLE Korea

หากมีส่วนไหนที่แปลผิดพลาดต้องขออภัยด้วยนะคะ

แปล Kim Go Eun Thailand Fan Club แอดหมวย แอดหวา

***ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาที่แปลแล้วไปใช้ค่ะ***

--

--

Kim Go Eun Thailand Fan Club
Kim Go Eun Thailand Fan Club

Written by Kim Go Eun Thailand Fan Club

บทความแปลไทยโดยทีมแอดมิน Kim Go Eun Thailand Fan Club รวมบทความ ข่าว ที่เกี่ยวข้องกับคิมโกอึน :: บทความแปลทั้งหมดไม่ให้นำไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต ::

No responses yet